การเลือกประเภทบัญชี XMในการเทรด สำหรับมือใหม่

หลายคนคงมีข้อสงสัยว่าถ้าเราจะเริ่มเทรดแล้วเราควรเลือกเปิดบัญชีประเภทไหนดีเพื่อที่จะดำเนินการซื้อขายฟอเร็กซ์, หรือการซื้อขายสกุลเงิน, หรือการซื้อขาย FXซึ่งเป็นตลาดระดับโลกที่ไม่มีศูนย์กลางให้เราสามารถทำการซื้อขายสกุลเงินระหว่างกันได้ตามอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว มันเหมือนกับคล้ายๆว่าเราเปิดสมุดบัญชีในธนาคาร ว่าจุดประสงค์ของบัญชีนั้นๆคือ อะไร ไว้ทำอะไร ดอกเบี้ย หรือ ค่าธรรมเนียมก็จะต่างกันตามแต่ละประเภทบัญชี การเทรดก็เช่นกัน เราต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ก่อนแล้วโบรกเกอร์ก็แล้วก็สามารถเข้าสู่แพลตฟอร์มที่มีเมนูคำสั่งการซื้้อขาย (ที่นิยมมากที่สุดคือ MT4/MT5)ออนไลน์ได้นั่นเอง

การเลือกประเภทบัญชี XMในการเทรด

XM มีบัญขีหลากหลายประเภทให้เลือก ขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการแบบไหน เทรดอย่างไร ต้องการฝากเงินขั้นต่ำเท่าไร ซึงค่าธรรมเนียมแต่ละประเภทบัญชีก็ไม่เท่ากัน

XM มีประเภทบัญชีแบ่งออกได้ดังนี้

1. บัญชีไมโคร เป็นประเภทบัญชีสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มสามารถเทรดUSD, EUR, GBP, JPY, CHF, AUD,‎HUF, PLN, RUB, SGD, ZAR, THBเป็นการเทรดล็อดเล็ก เงินฝากขั้นต่ำเพียง 5 USD สำหรับเน้นการเทรดเพื่อหาประสบการณ์ ในการเทรด และการเรียนรู้เครื่องมือที่ใช้ในการเทรดเพื่อให้เกิดความชำนาญค่ะ
2. บัญชี Standard เป็นบัญชีที่นิยมสำหรับคนที่มีประสบการณ์มากขึ้น ต้องการโบนัสเงินฝาก ไม่มีค่าธรรมเนียม เทรดวอลุ่มมาก เทรดได้หลายสไตล์และมีคู่สกุลเงินและตราสารในการเทรดมาก
3. บัญชี XM Ultra low สำหรับคนที่ต้องการเทรดค่าสเปรดที่ต่ำมากๆ แถมยังไม่มีค่าธรรมเนียมอีกด้วย แต่ประเภทบัญชีนี้จะไม่ค่อยมีโบนัสเงินฝาก
4. บัญชี XM Swap free เป็นบัญชีสำหรับคนเทรดยาวๆที่ต้องการลากข้ามวันข้ามคืนไม่ต้องกังวลกับค่าดอกเบี้ยในกรณีที่ถือโพสิชั่นที่ติดลบ
5. บัญชี Share สำหรับการซื้อขายหุ้นสำหรับคนที่ต้องการลงทุนจำนวนมาก

XM มีบัญชีซื้อขายได้สูงสุด 10 บัญชี และบัญชี Shares 1 บัญชี เราสมัครเพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถเปิดได้หลายบัญชีค่ะ เราสามารถสมัครฟรี ไม่ต้องฝากเงินค่ะ ลงทะเบียนไว้ก่อนก็ได้

เพื่อนๆสามารถดูรายละเอียดได้ตามตารางได้เลยค่ะ

รายการ	บัญชี Micro	บัญชี Standard	บัญชี XM Ultra Low	บัญชี Shares
ตัวเลือกสกุลเงินหลัก	USD, EUR, GBP, JPY, CHF, AUD,‎HUF, PLN, RUB, SGD, ZAR, THB	USD, EUR, GBP, JPY, CHF, AUD,‎HUF, PLN, RUB, SGD, ZAR, THB	USD, EUR, GBP,AUDSGD, ZAR, THB	USD
ขนาดของสัญญา	1 Lot = 1,000	1 Lot = 100,000	Standard Ultra: 1 Lot = 100,000 Micro Ultra: 1 Lot = 1,000	1 หุ้น
เลเวอเรจ	1:1 ถึง 1:888 ($5 – $20.000) 1:1 ถึง 1:200 ($20.001 – $100.000) 1:1 ถึง 1:100 ($100.001 +)	1:1 ถึง 1:888 ($5 – $20.000) 1:1 ถึง 1:200 ($20.001 – $100.000) 1:1 ถึง 1:100 ($100.001 +)	1:1 ถึง 1:888 ($5 – $20.000) 1:1 ถึง 1:200 ($20.001 – $100.000) 1:1 ถึง 1:100 ($100.001 +)	ไม่มี
ป้องกันบาลานซ์ติดลบ	OK	OK	OK	OK
สเปรดสำหรับคู่สกุลเงินหลัก	ต่ำสุด 1 Pip	ต่ำสุด 1 Pip	ต่ำสุด 1 Pip	ตามตลาด
ค่าคอมมิชชั่น	ไม่มี	ไม่มี	ไม่มี	มี
จำนวนคำสั่งที่เป็น open/pending สูงสุดต่อลูกค้าหนึ่งท่าน	200 โพซิชั่น	200 โพซิชั่น	200 โพซิชั่น	50 โพซิชั่น
ปริมาณการเทรดขั้นต่ำ	0.01 Lots (MT4) 0.1 Lots (MT5	0.01 Lots	Standard Ultra: 0.01 Lots Micro Ultra: 0.1 Lots	1 Lot
จำนวน Lot สูงสุดต่อหนึ่งคำสั่ง	100 Lots	50 Lots	Standard Ultra: 50 Lots Micro Ultra: 100 Lots	ขึ้นอยู่กับหุ้น
อนุญาตให้ทำการ เฮดจ์จิ้ง	OK	OK	OK	ไม่ได้
จำนวนเงินฝากขั้นต่ำ	$5	$5	$5	$10,000

** ถ้าเราปล่อยให้มีโพซิชั่นเปิดข้ามวัน จะต้องจ่ายหรือได้รับเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะถูกคำนวณตามความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยของคู่สกุลเงิน การดำเนินการนี้เรียกว่า “swap” ในเทอมินอลการเทรด ค่า “swap” จะถูกแปลงให้เป็นสกุลเงินฝากโดยอัตโนมัติ การดำเนินการนี้จะเกิดขึ้นที่เวลา 00.00 (โซนเวลา GMT+2 ) และจะมีการใช้เวลาไม่กี่นาที จะมีการคิดค่า swap นี้เป็นเวลาสามวัน ตั้งแต่วันพุธถึงวันพฤหัสบดี  อาจถือว่าเป็นคล้ายๆดอกเบี้ย เราจะได้รับก็ต่อเมื่อโพสิชั่นที่เราถือเป็นบวกข้ามวัน มีกำไร แต่ถ้าเราถือโพสิชั่นที่เป็นลบข้ามวัน เราต้องเสีย

**** สำหรับบัญชีทุกประเภทบนแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 เลเวอเรจสำหรับ EURDKK, EURHKD, GBPDKK, USDDKK, USDHKD, USDCNH, EURRUB และ USDRUB ได้ถูกจำกัดไว้ที่ 1:50 และเลเวอเรจสำหรับ USDTRY, EURTRY ได้ถูกจำกัดไว้ที่ 1:100

สำหรับบัญชีทุกประเภท เลเวอเรจได้ถูกจำกัดไว้ที่ 1:400 สำหรับคู่เงิน CHF ทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5

คู่สกุล

มีสามแบบ
คู่สกุลเงินหลัก (คู่สกุลเงิน major)กลุ่มของคู่สกุลเงินหลักนี้จะประกอบไปด้วยคู่สกุลเงินที่ถูกซื้อขายมากที่สุดและจะมี USD อยู่ด้วยเสมอ
คู่สกุลเงินหลักได้แก่: EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD, USD/CHF, USD/CAD, AUD/USD, NZD/USD
คู่สกุลเงินรองคือคู่สกุลเงินทั้งหมดที่ไม่มี USD แสดงอยู่
คู่สกุลเงินพิเศษนี้คือคู่สกุลเงินที่ถูกซื้อขายในระดับที่ต่ำ

ขนาดของสัญญา XM

ในตลาด Forex เทรดเป็นจำนวน Lots ขนาดมาตรฐานสำหรับ Lot คือ 100,000 units  แต่ในปัจจุบันหลายโบรคเกอร์ได้มีขนาด Lot ที่เล็กลงเพื่อเหมาะกับนักลงทุนที่มีทุนน้อยหรือต้องการฝึกฝนการซื้อขายฟอเร็กซ์ได้จึงได้มีการลดขนาดลง

1 standard Lot Size เท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก(Unites) ซึ่งหมายความว่าหากคุณต้องการซื้อขายคู่เงินใดๆ เช่นAUD/USD จำนวน 1 Lot คุณจะต้องมีเงิน 100,000 $

Lots เป็นระบบที่ใช้ในการคำนวณยอดเทรดว่าเราต้องการเทรดที่เท่าไหร่ ถ้าเราใช้ Lot สูง  ราคาที่เราได้รับนั้นก็จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆด้วย ปกติแล้วโบรกเกอร์จะมีการใช้ Lot ที่เป็นแบบ Standard คือเป็นแบบมาตรฐาน ประกอบไปด้วยตัวเลขดังต่อไปนี้คือ 0.01, 0.1, 1.0 ,10.0

วิธีการคำนวณ Lot

ตัวอย่างที่ 1 สมมติว่าเราจะใช้ขนาดล็อต 100,000 หน่วยมาตรฐาน (Standard Lot)ตอนนี้เราจะคำนวณตัวอย่างใหม่เพื่อดูว่ามันมีผลต่อค่า pip อย่างไร
USD / JPY ที่อัตราแลกเปลี่ยน 110.00: (.01 / 110.00) x 100,000 = $ 9.09ต่อ pip

สมมติว่าเราจะใช้ขนาดล็อต1,000 USD / JPY ที่อัตราแลกเปลี่ยน 110.00:: (.01 / 110.00) x 1,000= $ 0.090ต่อ pip

ตัวอย่างที่ 2 สมมติว่าเราจะใช้ขนาดล็อต 100,000 หน่วยมาตรฐาน
USD/CHF ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1.4222(.0001 / 1.4222) x 100,000 = $7.032ต่อ pip
ขนาดล็อต1,000 USD
ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1.4222(.0001 / 1.4222) x 1,000= $0.0703ต่อ pip

LOT	จำนวนหน่วย
Standard	100,000
Mini	10,000
Micro	1,000
Nano	100

สำหรับ XM ขนาดสัญญาที่เล็กสุดจะอยู่ในรูปของ Micro 1,000 units

เลเวอเรจ

เลเวอเรจ(Leverage )ช่วยให้สามารถทำการซื้อขายได้ด้วยเงินมากกว่าที่มีในบัญชี เทรดเดอร์จะสามารถเปิดออเดอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเงินทุนที่มีอยู่จริงได้มากถึง 1,000 เท่าเลยทีเดียว หรือจะให้พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือเลเวอเรจคือวิธีที่เทรดเดอร์จะสามารถทำกำไรได้ในปริมาณที่มากกว่าตอนที่ใช้เงินทุนที่มีอยู่จริงในการเทรด มีเทรดเดอร์ที่สนใจเข้ามาเทรด FX
สมมติว่าเทรดเดอร์มีเงินลงทุนในบัญชีอยู่ 1,000 USD เลเวอเรจอยู่ที่ 1:500 จะสามารถเปิดสถานะเทรดที่ใหญ่ขึ้นได้ถึง 5 ล็อตด้วยหน่วยสกุลเงิน USD
เงินทุน 1,000 USD x 500 (เลเวอเรจ)เท่ากับสามารถเทรดด้วยสถานะสูงสุดได้ถึง 500,000 USD

XM จะดำเนินการป้องกันบาลานซ์ติดลบแบบอัตโนมัตินี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีความผันผวนเช่นการเคลื่อนไหวของ EURCHF

สเปรดสำหรับคู่สกุลเงินหลัก

Spread (สเปรด) คือ ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อกับราคาเสนอขาย ซึ่งวัดเป็นหน่วย pip

Pip – สำหรับตราสาร Forex ที่มีจุดทศนิยม 5 ตำแหน่ง  GBPUSD – 1.12345  1 pip เท่ากับการเพิ่มราคา 0.00010
สำหรับตราสาร Forex ที่มีจุดทศนิยม 3 ตำแหน่งเช่น USDJPY – 101.123  ( 1 เท่ากับการเพิ่มราคา 0.010 สำหรับดัชนี)  1 pip เท่ากับการเพิ่มราคา 1.0 ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าจุดดัชนี สำหรับตราสารอื่นๆ 1 pip เท่ากับขนาดของ Tick

ตัวอย่าง
ราคา ASK-ราคาBID
EURUSD โดยราคา ask = 1.1236 และราคา bid = 1.1234
สเปรด:    2pip

สเปรดแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือสเปรดคงที่ (fixed spread)และสเปรดลอยตัว (floating spread) สเปรดแปรผันตามสภาพของตลาด ถ้าไม่อยากเสียค่าสเปรดแพงควรหลีกเลี่ยงการเทรดช่างที่มีการประกาศข่าวสาร

NOTED

จำนวนเงินของสกุลเงินหลัก*Pips= มูลค่าของโควตสกุลเงิน
มูลค่าของ 1 pip ใน EUR/USD= 1 Lot (100 000 €)*0.0001= 10 USD
มูลค่าของ 1 pip ใน USD/CHF= 1 Lot (100 000 $)*0.0001=10 CHF
มูลค่าของ 1 pip ใน EUR/JPY=1 Lot (100 000 €)*0.01= 1000 JPY

จำนวนคำสั่งที่เป็น open/pending สูงสุดต่อลูกค้าหนึ่งท่าน

จะถูกจำกัดที่ 200 โพซิชั่น ถ้าเราเป็นคนเทรดมือ มักไม่มีปัญหาอะไร เพราะ เราคงไม่เทรดเยอะขนาดนั้น แต่ถ้าเทรดด้วย EA ข้อควรระวังของEAคือจะต้องออก ออร์เดอร์ไม่เกิน 200/orders/คน เพราะเมีข้อจำกัดคือ ลูกค้า 1 ท่านสามารถมีออร์เดอร์ที่เปิดใช้งานอยู่ได้ไม่เกิน 200 positions จากทุกบัญชีเทรดรวมกัน

เฮดจ์จิ้ง

หรือการทำ Hedging คือวิธีการในการประกันความเสี่ยงของการลงทุน ด้วยวิธีการเปิดรายการซื้อ(buy) และขาย(sell) เงินสกุลเงินเดียวกันในเวลาคาบเกี่ยวกันโดยทำเพื่อลดความศูนย์เสียและ ป้องกันความผันผวนของตลาด ซึ่งอาจเกิดจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน แต่เราเสียสเปรด 2รอบ

มือใหม่ควรเลือกประเภทบัญชี แบบไหนดี

บัญชี Microมีคุณสมบัติเกือบจะเหมือนกันกับบัญชีมาตรฐาน แต่เป็นประเภทบัญชีเฉพาะสำหรับขนาดธุรกรรมเล็ก ๆสามารถซื้อขายได้มากถึง100,000 สกุลเงิน
บัญชีมาตรฐานตัวเลือกที่ทรงพลังที่สุดามารถซื้อขายได้มากถึง 5 ล้านสกุลเงินและสร้างรายได้อย่างจริงจัง
ถ้าเราเป็นนักเทรดใหม่ ยังไม่ค่อยเข้าใจ MT4 หรือการคำนวนความเสี่ยงมากนัก อาจเลือกบัญชีแบบMicro ก่อนแม้กำไรอาจจะน้อยแต่การขากทุนก็น้อยเช่นกัน เมื่อเราใช้MT4คล่อง การเทรดของเรามีกำไรคงที่ เราสามารถเพิ่มบัญชีได้โดยไม่ต้องยื่นเอกสารใหม่เพราะ XM ให้เราสามารถเปิดได้ถึง 8บัญชีและแตกต่างกันได้ จากนั้นเราค่อยดูว่าเราเทรดเงินสกุลไหน เทรดบ่อยแค่ไหน ต้นทุนเท่าไร $5 สำหรับบัญชี MICRO และ STANDARD, $50 สำหรับบัญชี ULTRA LOW, และ $10,000 สำหรับบัญชี SHARES
สำหรับผู้ที่เทรดบ่อย แต่ไม่ได้เทรดหลายสกุลเงินอาจจะลองเข้าไปดูเนื้อหาของXM ULTRA LOW ค่าสเปรดต่ำ เเละไม่มีค่าคอมมิชชั่น ได้นะคะ#XM มีบัญชีแบบ MICRO และ STANDARD อย่างไรก็ตามคุณสามารถเลือกการซื้อขายแบบ mini lot size (10000 หน่วย) โดยลดปริมาณวอลุ่มในบัญชี standard เป็น 0.1 (0.1 x 100000 หน่วย=10000 หน่วย) หรือโดยการเพิ่มปริมาณวอลุ่มการเทรดเป็น 10 micro lots (10 x 1000 หน่วย=10000 หน่วย) ในบัญชีประเภท micro
และจะสามารถเลือกการซื้อขายขนาด nano lot size (100 หน่วย) โดยลดปริมาณการซื้อขายลงเป็น 0.1 ในบัญชีประเภท micro (1 micro lot=1000 หน่วย
สำหรับบัญชีประเภท Shares นั้นเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ของสถาบันการเงินขนาดใหญ่หรือคนที่ต้องการจัดพอร์ตทางการเงิน เนื่องจากเป็นบัญชีที่มุ่งเน้นในเรื่องของการลงทุนมากกว่าการเทรดเก็งกำไร
#เกี่ยวกับโบนัส
โปรโมชั่นโบนัส เงินฝาก นี้มีให้สำหรับบัญชีแบบ Micro และ Standard เท่านั้น
เปิดบัญชีพร้อมรับโบนัสการเทรด $30 ไม่จำเป็นต้องมีการฝากเงิน สำหรับผู้ที่เปิดบัญชีครั้งแรก

เปิดบัญชีจริงไม่ถึง5นาทีคลิกที่นี่